กูรูกฎหมายคอมฯถกอุดช่องโหว่การบังคับใช้
เปิดสัมมนากฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมฯ นักกฎหมายสหรัฐฯหารือพร้อมผุด 2 แนวคิดป้องภัยบนอินเทอร์เน็ต นักวิชาการไทยชี้การเมืองส่งผลให้กฎหมายเพี้ยน...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ก.ค.) เครือข่ายพลเมืองเน็ต จัดสัมมนา เรื่องกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ : มุมมองจากสากลและหลักปฏิบัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้นักกฎหมายในต่างประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของแต่ละประเทศว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พร้อมนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับกฎหมายคอมพิวเตอร์
นายเอดเด็น แคตซ์ ผู้อำนวยการกิจการต่างประเทศ อิเล็กทรอนิกส์ ฟรอนเทียร์ ฟาวน์เดชั่น หรือ อีเอฟเอฟ องค์กรอิสระที่เน้นการเคลื่อนไหวด้านสิทธิดิจิตอล ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า นิยามของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ หรือไซเบอร์คราม ของแต่ละประเทศ คือ จะอิงกับกฎหมายอาญา และเน้นเจตนาในการทำเป็นหลัก โดยปรับเป็น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ.คอมฯ แต่การอิงกฎหมายดังกล่าว จะแตกต่างออกไป เพราะบางเรื่อง คอมพิวเตอร์มีความซับซ้อน เช่น การเกิดไวรัส ทำให้เกิดการผิดปกติของคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการอ้างอิงจึงไม่ถูกต้องทั้งหมด เป็นต้น
ผอ.อีเอฟเอฟ กล่าวต่อว่า นิยามไซเบอร์คราม แถบยุโรปที่นิยมแพร่หลาย บางครั้งไม่สามารถใช้ได้กับทุกประเทศ เพราะพฤติกรรมการใช้งานแต่ละประเทศแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องปรับใช้ให้เข้ากับท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ต้องปรับให้เข้ากับตัวกลางก่อนเข้าถึงข้อมูล บนอินเทอร์เน็ตด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แนวคิดการป้องกันอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1.พ.ร.บ.คอมฯ ควบคุมให้รัฐเข้ามามีอำนาจบนเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และ2.อินเทอร์เน็ตระบบเปิด เป็นตามแบบเดิมที่ริเริ่มมา โดยส่วนตัวเชื่อว่า ระบบเปิดเป็นช่องทางที่ดีกว่า เพราะช่วยให้เกิดนวัตกรรมและรูปแบบเศรษฐกิจใหม่
นายทศพล ทรรศนกุลพันธุ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า ขณะนี้ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือ พ.ร.บ.คอมฯ 2550 ในประเทศไทยยังไม่ชัดเจน เนื่องจากภาครัฐยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายควรเข้าตรวจสอบ ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องมีนิยามกฎหมายคอมฯ ที่ชัดเจน 3 ด้าน คือความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ปัญหา คือรัฐใช้อำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง แม้ว่าจะเปิดกว้างแต่การบังคับใช้ ยังเข้าข่ายการเมือง เพราะฉะนั้นการตีความก็จะผิดไป ขณะเดียวกัน คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายควรเข้ามาดู เพื่อปรับให้ถูกต้อง” อ.คณะนิติศาสตร์ มช. กล่าว
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://ilaw.or.th
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.projectlib.in.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.nstda.or.th/th
http://www.arda.or.th
http://www.nppdo.go.th
http://www.tlcthai.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.oknation.net/blog/assistance
http://weblogcamp2009.blogspot.com/
บทความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น